ผู้จัดการรายวัน 360 – อุตสาหกรรมอีเวนต์ตกต่อเนื่อง 2 ปี เม็ดเงินสูญร่วม 1,200 ล้านบาท “อินเด็กซ์” ปรับพอร์ตลดความเสี่ยง ชูโอนโปรเจกต์ลุยต่างประเทศทดแทน เล็งจีบสปอนเซอร์อีเวนต์บอลโลกที่กาตาร์ มั่นใจปีหน้ายังโต 6-10% สู่เป้า 1,900 ล้านบาท
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ในปีนี้จะตกลง 4% และปี 2563 คาดว่าจะตกลงอีก 5% จากปีก่อนมีมูลค่า 13,000 ล้านบาท หรือ 2 ปีนี้เม็ดเงินหายไปกว่า 1,144-1,200 ล้านบาท ส่งผลให้ในปี 2563 อุตสาหกรรมอีเวนต์น่าจะมีมูลค่ารวมราว 11,900-12,000 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้ความคล่องของสภาพธุรกิจลดต่ำลง และจะเป็นตัวแปรให้คนจับจ่ายใช้สอยลดลงตามไปด้วย ที่สำคัญจะเลือกความคุ้มค่าสูงสุดในการใช้เงินโดยเฉพาะในการเข้าร่วมอีเวนต์ใดอีเวนต์หนึ่ง
ส่งผลให้เทรนด์อีเวนต์ในช่วง 10 ปีต่อจากนี้ไปจะมีไซส์เล็กลง มีความเฉพาะตัวมากขึ้น หรือในปี 2563 ธุรกิจอีเวนต์ที่จะไปต่อได้จำเป็นต้องมี NUL นั่นคือ 1. Niche กลุ่มตลาดที่เฉพาะและตรงเป้าหมาย 2. Unique ที่ไม่เหมือนใคร 3. Limited คือจำนวนจำกัดและหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งเป็นการตลาดที่กระตุ้นให้คนเลือกจ่ายเงินเพื่อแลกประสบการณ์ที่พลาดไม่ได้โดยไม่เสียดายเงิน
ในส่วนของอินเด็กซ์เองนั้น แผนการดำเนินงานในปี 2563 จะมุ่งธุรกิจไปที่การขยายฐานไปงานประเภทโอน โปรเจกต์ เน้นความสร้างสรรค์ สร้างความสด ใหม่ เพื่อต่อยอดงานทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างครบวงจร อย่างเช่น KILORUN 2020 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 คาดช่วยเพิ่มรายได้ให้กลุ่มธุรกิจโอนโปรเจกต์สูงขึ้น 100% นอกจากนี้ ยังมุ่งเจาะกลุ่มตลาดเอเชีย และตะวันออกกลาง กับงาน Qutar the Glory Operetta ด้วยงบลงทุน 150 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมของอินเด็กซ์ในปีหน้าจะมีงานสเกลใหญ่ 4-5 งาน ทำให้มี backlog อยู่ 500 ล้านบาท ดันนั้น ในปี 2563 จึงคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงมีรายได้รวมเติบโต 6-10% หรือมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,900 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากการที่กาตาร์จะเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งต่อไป ทางอินเด็กซ์เองได้เริ่มมีการพูดคุยและมองหาโอกาสในการรับงานเกี่ยวกับฟุตบอลโลกในกาตาร์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสปอนเซอร์อีเวนต์ และการพูดคุยโดยตรงกับทางภาครัฐของกาตาร์ด้วย เชื่อว่ามีโอกาสความเป็นไปได้สูง และหากทำได้จริงจะเห็นรายได้ส่วนนี้เพิ่มเข้ามาในปี 2565
นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า ในส่วนของโอนโปรเจกต์ ปีหน้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์อีเวนต์จะมีอีก 4-5 งาน และล่าสุดปลายปีนี้บริษัทได้จับมือกับดับเบิลยูดิสทริกจัดงานเคานต์ดาวน์ “THE HELIPAD 360 องศา EXCLUSIVE PARTY AT THE SKY EXPERIENCE” ที่ชั้น 46 และชั้น 50 อาคารสกายวอล์ก คอนโดมิเนียม ในโครงการดับเบิลยูดิสทริก (W District) คาดว่าจะมีผู้ร่วมงาน 1,000 คน ใช้งบลงทุน 5 ล้านบาท ถือเป็นโอนโปรเจกต์ล่าสุดของทางอินเด็กซ์ ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ในปี 2562 นี้ปิดที่ 1,811 ล้านบาท โต 13%